ฤกษ์การถอนฟัน เพื่อช่วยให้ไม่ทรมาน

ฤกษ์การถอนฟัน เพื่อช่วยให้ไม่ทรมาน

สวัสดีครับท่านผู้อ่านผมอาจารย์เอก ธนกร วันนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาแนะนำทุกท่านเช่นเคย แต่เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับโหราศาสตร์ ที่จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านมาก เพราะในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวของผมเองมีอาการปวดฟันมากและผมเองก็นึกถึงเรื่องของการถอนฟันในครั้งก่อนๆว่า มันมีแบบทรมานและไม่ทรมาน โดยแบบไม่ทรมานนั้น ต้องอาศัยฤกษ์ที่ดีและไม่เป็นวันที่เป็นกาลี ต่อผู้ที่จะไปถอนฟัน และวันนี้ผมจะแนะนำวิธีการดูด้วยตัวเองแบบง่ายๆ แต่ต้องรู้ว่าตนเองนั้นเกิดวันอะไร

วิธีการดูฤกษ์การถอนฟัน เพื่อช่วยให้ไม่ทรมาน

1.วันที่ห้ามถอนฟัน เพราะถ้าจะเจ็บปวดมากและหายช้า

คนเกิดวันอาทิตย์ ห้ามถอน วันศุกร์

คนเกิดวันจันทร์ ห้ามถอน วันอาทิตย์

คนเกิดวันอังคาร ห้ามถอน วันจันทร์

คนเกิดวันพุธ ห้ามถอน วันอังคาร

คนเกิดวันพฤหัส ห้ามถอน วันเสาร์

คนเกิดวันศุกร์ ห้ามถอน วันพุธกลางคืน

คนเกิดวันเสาร์ ห้ามถอน วันพุธ

คนเกิดวันพุธกลางคืน ห้ามถอน วันพฤหัส

2.การเลือกวันข้างขึ้นข้างแรม มีผลต่อเลือดที่จะไหลมากน้อย

                ควรเลือกวันข้างแรม เพราะพลังของดวงจันทร์ที่มีผลต่อน้ำขึ้นน้ำลงก็มีผลต่อเลือดในกายเช่นกัน

3.ชื่อหมอบอกความทรมาน โดยอาศัย อักษรและสระ ที่เป็นตัวแรกบอกว่าหมอท่านนี้ไม่ถูกโฉลกกับคุณ

คนเกิดวันอาทิตย์ ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก  ศ ษ ส ห ฬ ฮ

คนเกิดวันจันทร์ ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก  อ เเละสระทุกตัว

คนเกิดวันอังคาร ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก ก ข ค ฆ ง

คนเกิดวันพุธ ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก จ ฉ ท ช ซ ณ ญ

คนเกิดวันพฤหัส ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก ด ต ถ ท ธ น

คนเกิดวันศุกร์ ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก ย ร ล ว

คนเกิดวันเสาร์ ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

คนเกิดวันพุธกลางคืน ชื่อของคุณหมอ อักษรตัวแรกไม่ควรเลือก บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้ที่ผม อ.เอก ธนกร ตั้งใจนำมามอบให้ทุกท่านได้นำไปใช้ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวเพียงส่วนหนึ่งที่ผมนำมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปศึกษานำไปใช้ดูแบบง่ายๆ ในครั้งต่อไปจะมาแนะนำเรื่องอื่นๆบ้าง สุดท้ายนี้สามารถติดต่อได้ที่ 

ติดต่อ  083-687-2891 / 085-4491499

เลขาแหม่ม Line : mammiepoko.o (หรือค้นหาจากเบอร์ 0836872891)

https://www.facebook.com/page.pu108/

บุคคลใดไม่สามารถเลี้ยงกุมารได้

บุคคลใดไม่สามารถเลี้ยงกุมารได้

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผมอาจารย์เอก ธนกร จากรายการเปิดกรรมพลิกดวง วันนี้มีเรื่องราวดีๆที่เกี่ยวกับไสยาศาสตร์มาฝากท่านผู้อ่านเช่นเคย เรื่องราวครั้งนี้เป็นเรื่องราวที่หาอ่านได้ยากและมีผู้รู้จริงน้อย ผมจึงถือว่าบทความนี้มีความสำคัญมากกับผู้เลี้ยงกุมาร ซึ่งถือว่าเป็นกฎข้อห้ามเลยทีเดียว เพราะเรื่องราวนี้ เป็นเรื่องราวทีเกี่ยวกับบุคคลและลักษณะบุคคลรวมถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมาของบุคคล ท่านผู้อ่านและผู้ที่คิดจะเลี้ยงกุมารจึงต้องประเมินตนเองว่าอยู่ในลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ถ้าอยู่ในลักษณะต้องห้ามไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่ง ผมก็บอกได้เลยว่า หากคุณยังฝืนหรือดื้อที่จะทำ เพราะคิดว่าการเลี้ยงกุมารเป็นเรื่องที่ใครก็เลี้ยงได้ ผมบอกได้เลยว่าคุณกำลังหาเรื่องใส่ตัว และการตัดสินใจของคุณอาจทำให้คุณบ้า วิกลจริต หรือบางคนเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

ลักษณะของบุคคลที่ไม่สามารถเลี้ยงกุมารได้มีลักษณะดังต่อไปนี้

           ลักษณะแรกที่ผมจะขอกล่าว คือ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ควรเลี้ยงกุมารเพราะจะทำให้ดวงตาที่3เปิด ซึ่งทำให้รับรู้และสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณของกุมารและวิญญาณทั่วไป อันจะเป็นผลทำให้บุคคลผู้นั้นอาจรับสิ่งที่เห็นไม่ได้ ส่งผลให้บางรายมีอาการทางจิต และบุคคลเหล่านี้ยังไม่สามารถเลี้ยงดูกุมารได้จึงทำให้กุมารโกรธแค้นถึงขั้นเอาชีวิตได้

          

         บุคคลประเภทที่สอง คือ บุคคลที่มีความเชื่อว่าตนเองนั้นถูกองค์เทพหรือวิญญาณประทับโดยง่าย โดยที่ไม่สามารถบังคับตนเองได้ บุคคลเหล่านี้จึงไม่ควรเลี้ยงกุมารเพราะจะทำให้วิกลจริตหรือคิดไปว่ากุมารเข้าอยู่ตลอดเวลา อันจะทำให้คนในครอบครัวทุกคนเกิดความทุกข์ใจและเป็นห่วง จนไม่เป็นอันกินอันนอน ผลของวิบากกรรมนี้ก็จะส่งผลมาถึงตัวเองและกุมารได้

        บุคคลลักษณะที่สาม คือ บุคคลที่ไม่มีเวลาและไม่เคยศึกษาว่ากุมารที่ตนเลี้ยงนั้นเป็นกุมารประเภทใด ชอบอะไร มีกฎข้อห้ามอะไร บุคคลเหล่านี้ถือว่าตกอยู่ในอันตราย เพราะเปรียบเสมือนคนเลี้ยงสัตว์ป่าที่น่ารักแต่เต็มไปด้วยพิษภัยที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความน่ารักนั้น เพราะเรื่องของเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากในการที่จะเลี้ยงกุมาร อีกทั้งต้องรู้และต้องทำตามกฎข้อห้ามของสถานที่ที่ไปรับเอากุมารมาอย่าให้บกพร่อง เพราะอาจส่งผลร้ายกับชีวิตอย่างที่ท่านไม่คาดคิด

           บุคคลลักษณะที่สี่ คือ บุคคลที่นอนรวมกับกุมาร คือ บุคคลที่มีห้องนอนขนาดเล็กและบุคคลที่ชอบวางกุมารไว้ข้างที่นอน บุคคลเหล่านี้หารู้ไม่ว่า ตนเองกำลังจะตายเหมือนปลูกต้นไม้ไว้ใกล้ที่นอน เพราะกุมารเป็นวิญญาณที่กำลังดึงพลังความเป็นมนุษย์ออกจากตัวท่านสู่ตัวกุมารอย่างไม่ตั้งใจ เพราะกุมารเป็นพลังงานหนึ่งของโลกวิญญาณที่เป็นประจุลบและมนุษย์ก็เป็นประจุบวกที่จะวิ่งเข้าหากัน และส่งผลถึงสุขภาพของผู้นั้น แต่ผมมีวิธีแก้สำหรับท่านที่จำเป็นต้องนอนรวมกับกุมารเพราะเนื้อที่จำกัด

วิธีแก้คือ ให้ท่านท่องคาถาว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สัตตะรัตนะ มหาปาการัง สะระณังคัจฉามิ

       หากท่านไม่ได้อยู่ในลักษณะข้างต้นก็สามารถเลี้ยงกุมารได้อย่างปลอดภัยแต่ท่านก็ต้องเรียนรู้วิธีการบูชากุมารอย่างถูกต้อง การบูชาในที่นี้หมายถึง การไหว้ด้วยธูปและด้วยมือ

           การไหว้ด้วยธูป ต้องใช้ธูป 7 ดอกเท่านั้น เพราะว่ากุมารนั้นอยู่ในรูปของวิญญาณเด็กหรือเป็นเทพที่เป็นเด็กที่กำลังรอผลบุญทำให้ตนนั้นไปจุติในภพภูมิที่ดี ธูป 7 ดอกจึงเป็นตัวแทนของความเหน็ดเหนื่อยและต่อสู้เป็นภพชาติสุดท้าย เพื่อให้ตนเองนั้นไปเกิดในภพภูมิที่ดี ส่วนบางตำราที่กล่าวว่า กุมารนั้นต้องไหว้ด้วยธูป 5 7 9 นั้น ผมเองในฐานะผู้รู้อย่างแท้จริง ก็ไม่มีข้อแนะนำในเรื่องของการใช้ธูป 5และ9 ดอก เพราะตามตำราที่ร่ำเรียนมาถือว่าการใช้ธูป 7 ดอก ไหว้เจ้าที่และกุมารถือเป็นการอวยพรว่าท่านนั้นกำลังจะพ้นจากความลำบากในภพชาตินี้ ที่ท่านเป็นกุมารหรือเจ้าที่

สุดท้ายนี้ ท่านที่ต้องการขอคำปรึกษาในเรื่องของดวงชะตา และการเลี้ยงกุมารสามารถติดต่อได้ที่ 085-159-1840 และ 085-449-1499

การเลี้ยงกุมารและคุยกับกุมารให้รู้เรื่องทำอย่างไร

การเลี้ยงกุมารและคุยกับกุมารให้รู้เรื่องทำอย่างไร

         สวัสดีครับท่านผู้อ่านหลังจากที่ผมอาจารย์เอก ธนกร จากรายการเปิดกรรมพลิกดวง ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการทำตัวให้เป็นขุนแผมมาหลายฉบับแล้ว ผมว่าเรามาพักเรื่องของการทำตัวให้เป็นขุนแผนสักฉบับ แล้วเรามาพูดถึงเรื่องของการเลี้ยงกุมารกันบ้างดีกว่า

        หลังจากที่ผมทำรายการเปิดกรรมพลิกดวงมาเป็นเวลานาน และก็เป็นอาจารย์สักยันต์มาหลายปี คำถามที่หลายคนมักจะถามถึงเครื่องรางของขลัง ที่ชื่อว่า “กุมาร” คำถามที่ถามกันบ่อยๆว่ากุมารที่บ้านยังอยู่หรือไม่ แล้วทำไมถึงยังสื่อไม่ได้ หรือทำไมไม่เคยปรากฏกายให้เห็น ใช้งานไม่เคยได้ผล และอีกหลายคำถามมากมาย

         วันนี้ผมว่าเรามาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้โดยละเอียดและรู้จริงดีกว่า เพราะคนอื่นที่เล่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่ผู้ชำนาญ แต่ก็แค่เลี้ยงเยอะเท่านั้นเอง ลำดับแรก ต้องรู้ก่อนว่ากุมารที่เลี้ยงนั้นเป็นกุมารเทพหรือกุมารพราย(ผี)หรือกุมารมนต์ ทั้ง3อย่างนี้มีความแตกต่างกันมาก ดังนี้

         กุมารเทพคือ กุมารที่ผ่านการปลุกเสกโดยอันเชิญ กุมารที่เป็นเทพ มาประจุอยู่ในหุ่น เหมือนดังการเชิญองค์พระพิฆเนศมาอยู่ในหุ่น แต่เราเชิญกุมารที่เป็นเทพ เช่น กุมารโกมิน กุมารนาจา เป็นต้น มาอยู่ในหุ่นแล้วกราบไหว้บูชาเหมือนบูชาเทพองค์อื่นๆ แต่การจะใช้งานนั้นยาก ต้องใช้การบนด้วยขงเล่นเช่น รถ เครื่องบิน จะดีกว่าการบนเป็นของกิน และกุมารประเภทนี้นั้นไม่ค่อยเฮี้ยนสำแดงฤทธิ์เพราะนานๆจะมาอยู่ประจำหุ่น อาศัยอยู่บนสวรรค์และมีหน้าที่ประจำของตน จะลงมาให้พรหรือบันดานความสำเร็จได้แต่นานๆครั้ง กุมารประเภทนี้จะไปเกิดต่อเมื่อเป็นบัญชาสวรรค์เท่านั้น

      

กุมารพราย(ผี) คือ กุมารที่เป็นดวงวิญญาณเด็กที่ตายไปแล้ว เช่น กุมารที่ถูกพ่อแม่ทำแท้ง โดยอาจารย์ผู้รู้จะทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณเด็กๆเหล่านี้ให้มาสถิตอยู่ในหุ่นและใช้คาถากำกับ เพื่อใช้งานและกุมารประเภทนี้น่าสงสารมาก เพราะต้องการความรัก ของกิน ของเล่น และแรงบุญ จากการทำบุญของผู้เลี้ยงมาก และกุมารประเภทนี้มีความเฮี้ยนสูงมักปรากฎกายหรือทำเสียงให้ผู้เลียงได้หรือผู้มาเยือนได้รู้ได้เห็นได้ยิน กุมารประเภทนี้ส่วนใหญ่เมื่อถึงเวลาไปเกิดหุ่นจะแตกเอง และถ้าเลี้ยงไม่ดีอาจเล่นงานผู้เลี้ยงเมื่อดวงตกได้

        กุมารมนต์ คือ กุมารที่ผู้มีวิชาปลุกเสกเนรมิตรด้วยเวทมนต์คาถาเหมือน พวกหุ่นพายนต์ แต่กุมารประเภทนี้จะมีการสร้างขึ้นโดยใช้มลสารทีเป็น อาถรรค์หายาก เช่น เส้นผมคนตาย ผ้าห่อศพ ตะปูตึงโลง น้ำมันเผาศพ ขี้เถ้าเผาศพ กุมารประเภทนี้ชอบกินขนมมากกว่าเล่นของเล่น และชอบการท้าทาย และชอบล่ารางวัล มีอิทธิฤทธ์มาก กุมารประเภทนี้ใครทาทายอยากเห็นได้เจอทุกคน และกุมารประเภทนี้ไม่มีไปเกิดแต่ถ้าทำไม่ดีเค้าจะเสื่อมมนต์คาถาและไม่ขลังไม่แสดงฤทธิ์อีกเลย แต่ถ้าผู้เลี้ยงกับมาสวดมนต์ท่องคาถาเรียกเค้าและคาถาสวดคาถาประจำตัวของเค้าก็จะขลังดังเดิม กุมารประเภทนี้มันสร้างเป็น กุมารไว้ผมแกะ2ด้าน ดังเช่นของสำนักผมเอง ผมเป็นผู้ปลุกเสก เอง ชื่อกุมารเจ้าแกะ

       

วิธีการคุย(สื่อจิต)กับกุมาร ให้สามารถรู้ว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ทำไม่ยาก แต่ต้องมีความอดทนและเชื่อมั่นว่ามันใช้ได้และมีอยู่จริง การที่จะสื่อได้นั้นมันไม่ยากเท่ากับ

"เมื่อเห็นกุมารต่อหน้าต่อตา สองลูกกระตาเห็น แล้วต้องทำใจไม่ให้กลัว อันนี้ยากที่สุด"

      ถ้าคิดว่าไม่กลัวเชิญทำตามนี้

      ท่องคาถาว่า ทุสะมะนิ กุมารมาๆ ท่องไปตอนกำลังง่วงนอนและกำลังจะนอนท่องๆจนหลับ แล้วพอตกกลางคืน จะฝันว่ากุมารมาหา ครั้งนี้ให้จงเชื่อก่อนว่ามันมาจริงๆ

      เมื่อเชื่อแล้ว ให้ท่องทุกวันว่า ทุสะมะนิ กุมารมาๆ มาให้รู้ ให้เห็นต่อหน้าต่อตากู เร็วๆ มามะมามา นะโมพุทธายะ มามา

ครั้งนี้เจอแน่นอนแต่อย่าลืมว่าห้ามกลัวให้คุยกับมันเหมือนกุมารเป็นลูก แค่นี้เองไม่ยาก ใช่หรือไม่ สุดท้ายนี้ท่านที่ชอบกุมารมนตาสามารถสอบถามได้นะครับ เพราะของผมก็มี รุ่นนึงที่ชื่อกุมารเจ้าแกะ หรือสอบถามดวงฟรีกับผมได้ที่WWW.PU108.COM โทร 085-449-1499 , 085-159-1840

การสมัครงานให้ได้งาน ตามหลักโหราศาสตร์และไสยศาสตร์

การสมัครงานให้ได้งาน ตามหลักโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์

      สวัสดีครับท่านผู้อ่าน กลับมาพบกับผมครับ อ.เอก ธนกร ในรอบสัดาห์ที่ผ่านมานี้ มีหลายคนได้โทรเข้ามาถามเรื่องของการไปสมัครงาน ว่าไปวันไหนดี และต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้งานผมเองก็เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เลยอยากนำเคล็ดความรู้ ทางด้านโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ที่ผมค่อนข้างชำนาญ มาแนะนำท่านผู้อ่านได้ลองนำไปประยุกต์ใช้

            วิธีการนั้นไม่ยาก เพียงคุณจำเป็นต้องอ่านให้จบ และถ้าอยากได้บุญก็จงนำเคล็ดความรู้นี้ ไปบอกต่อผู้อื่นเพื่อเป็นวิทยาทาน และขอให้บอกที่มาของบทความว่าได้จากผม อ,เอก ธนกร เพื่อให้ผมมีกำลังใจในการเสนอบทความดี ๆ ต่อไป เล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้าเลยครับ ขอเชิญท่านผู้อ่านเข้าสู่เนื้อหาบทความเคล็ดการสมัครงานให้ได้งาน ตามหลักโหรราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ได้เลยครับ

            ในหลักการนี้จำเป็นต้องใช้วันเกิดของผู้ที่จะไปสมัครงาน เพื่อนำมาหาวันที่จะไปสมัคร และพอรู้ว่าต้องไปสมัครในวันไหนก็จะมีเคล็ดในเรื่องของการแต่งตัว เพื่อให้คุณนั้นได้งานแบบง่าย ๆ

วันที่ควรไปสมัครงาน เพื่อให้ได้งาน สำหรับคนวันทั้ง 7
คนวันอาทิตย์  ให้ไปสมัครงานในวันพฤหัสบดี

คนวันจันทร์ ให้ไปสมัครงานในวันพุธ

คนวันอังคาร ให้ไปสมัครงานในวันศุกร์

คนวันพุธ ให้ไปสมัครงานในวันจันทร์

คนวันพฤหัสบดี ให้ไปสมัครงานในวันพุธ

คนวันศุกร์ ให้ไปสมัครงานในวันอังคาร

คนวันเสาร์ ให้ไปสมัครงานในวันศุกร์

คนพุธกลางคืน ให้ไปสมัครงานในวันจันทร์

     ในหลักการนี้ให้ความสำคัญ ในเรื่องของวันเกิด และเวลาเกิดเป็นสำคัญ โดยให้ยึดช่วงเวลา 6 โมงเช้าถือเป็นวันใหม่ ตามแบบโบราณ หากคุณเป็นคนที่เกิดในช่วงเวลา ตี 5 ห้าสิบเก้านาที ก็ให้ปัดขึ้นไปเป็นวันที่ผ่านมา

หลักการในการแต่งตัวเพื่อให้ได้งาน
ไปสมัครงานในวันจันทร์ ให้หาเครื่องประดับสีเขียวติดตัวไป เพื่อเสริมให้เกิดความเมตตา

ไปสมัครงานในวันอังคาร ให้ใส่เครื่องประดับสีฟ้าหรือน้ำเงิน เพื่อให้มีอำนาจ

ไปสมัครงานในวันพุธ ให้ใส่เครื่องประดับสีขาว เพื่อให้ผู้ใหญ่เอ็นดู

ไปสมัครงานในวันพฤหัสบดี ให้ใส่เครื่องประดับสีแดง เพื่อให้เห็นถึงความสามารถ

ไปสมัครงานในวันศุกร์ ให้ใส่เครื่องประดับสีเขียว เพื่อให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดที่มีอยู่ในตัวคุณ

             ในหลักการนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็ควรเลือกเครื่องประดับหรืออุปกรณ์ เสื้อผ้า หน้า ผม ให้เข้ากับสถานการณ์ไม่ดูแปลกตา และดูแปลกประหลาดเกินไป เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและถูกกาละเทศะ

             สุดท้ายนี้ผม อ.เอก ธนกร หวังว่าทุกท่านคงได้ความรู้และได้งานทำดังที่คุณหวังไว้ ส่วนท่านที่มีความสงสัยในเรื่องอื่น ๆ ก็สามารถที่จะติดตามผลงานของผมได้ในฉบับต่อ ๆ ไป เพราะผมก็จะนำเอาความรู้ที่เกิดจากคำถามของแฟน ๆ รายการ เปิดกรรมพลิกดวง มาเล่าและแนะนำวิธีการทำให้เกิดผลสำเร็จ ดังที่เคยให้คำแนะนำปรึกษามา ส่วนคนที่อยากจะดูดวงฟรีกับผม สามารถติดต่อผมได้ที่ www.pu108.com โทร. 085-4491499 , 085-1591840

การทำเสน่ห์ด้วย วิชาเทียนมหารำลึก

การทำเสน่ห์ด้วย วิชาเทียนมหารำลึก

          สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ผม อ.เอก ธนกร เปิดกรรมพลิกดวง   วันนี้ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับไสย์ศาสตร์ที่มีอยู่จริงและมีการถ่ายทอดมากันรุ่นต่อรุ่นสำนักต่อสำนัก ดังจะเห็นได้ว่าพระเกจิอาจารย์หลายท่านได้เรียนมาและนำวิชามาช่วยผู้คนที่ตกทุกข์ให้พ้นจากทุกข์และความทุกข์ของคนอย่างเราๆก็หนีไม่พ้นเรื่อง เงินทองกับความรักและเรื่องของวิชาการทำเทียนมหารำลึกนั้น ช่วยเรื่องความรักได้ขมังนักจนเป็นที่รู้จักในวงการของผู้เรียนวิชาไสย์ศาสตร์

         แต่ว่าวันนี้ผมเองจะเล่าเรื่อง พร้อมให้คำแนะนำ เรื่องการใช้วิชา เทียนมหารำลึก เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องความรัก

ในสมัยที่ผมเองยังเป็นผู้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์และกำลังเรียนวิชาการทำเทียนมหารำลึก ผมเองก็มีครูเป็น หลวงน้าของผมเอง ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดเวฬุวัณ จ.ปทุมธานี วิชาทำเทียนนี้ถือว่าเป็นวิชาที่เรียนไม่ยาก และทำไม่ยาก แต่ผู้ทำต้องผ่านการฝึกสมาธิมาเป็นอย่างดี เพื่อให้จิตมีพลัง อุปกรณ์ที่ใช้นั้นก็คือเทียนขนาดปกติที่หาซื้อได้ทั่วไปหรือบางทีก็สามารถใช้เทียนใหญ่อย่างเทียนพรรษาได้เช่นกัน บางสายสำนักอาจนำเทียนมาหล่อเองและทำไส้เทียนด้วยกระดาษสาโดยนำมาเขียนชื่อของตัวเองและคนรักพร้อมนำเทียนมาหล่อเป็นแท่งและนำมาจุดเทียนไหว้พระ

แต่จริงๆแล้วทุกรูปแบบของการทำเทียนมหารำลึกนั้น ต้องนำมาจุดเทียนท่องคาถามหารำลึกหน้าพระพุทธหรือหน้าเทพที่เราเคารพ แต่ตอนที่ผมเรียนผมเรียนมาทุกรูปแบบ แต่วิธีการที่ผมนิยมใช้ คือ การใช้เทียนขนาดปกตินำมาเขียนชื่อผู้กระทำและผู้ถูกกระทำลงบนเทียน จากนัันก็ท่องคาถา ดังนี้

พระคาถาเทียนมหารำลึก

ยันต์ทุนนิมิตตังจิตตัง จิตกูจงไปพะวัง อิตถียัง จิตกูไปสู่จิต(ใส่ชื่อผู้ที่เราต้องการให้คิดถึงเรา)ของให้จงมารัก มาหลงกู เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ เอหิจงมา พะทะนะมะ ให้จิตมันอยู่่ไม่ได้ร้องไห้มาหากู นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ

(เวลาท่องพระคาถาต้องทำจิตสำรวมไปที่เทียนจองมองไปที่เปลวไฟและ่องคาถาไป9จบ)

วิธีการดูว่าวิชานี้เราใช้ได้หรือไม่

1.เวลาที่เราท่องพระคาถาจะมีอาการขนลุกขนพอง

2. เมื่อใช้วิชาไปแล้วภายใน3-7วัน คนทั้งคู่จะรักกันมากขึ้น

3.ผู้ถูกกระทำจะมีอาการ ร้อนใจอยากมาหามาเจอ บางครั้งอยากพูดคุยกับผู้กระทำตลอดเวลา

(ถ้าใช้วิชาแล้วปรากฎว่าเป็นอย่างนี้จริงๆก็ถือว่าใช้ได้ แต่ว่าข้อดีก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ข้อเสียคือ เราเองอาจได้ตัวเค้า แต่หัวใจไม่ได้)

ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเร่่ืองของวิชาความเชื่อผู้ที่ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้หรือางทีโดนกับตุวเองแล้วก็ยังไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นจึงต้องลองฝึกด้วยตัวเราเองบ้าง จะได้รู้ว่า วิชาทำเทียนมหารำลึก นั้นมันมีจริงและใช้ได้จริง เมื่อรู้ว่าคาถาอาคมมีจริง ก็จงรู้เอาไว้ด้วยว่า นรก สวรรค์ กรรม ก็มีจริง เราจึงต้องเกรงกลัวในบาปในการกระทำทุกการกระทำก็จะส่งผลถึงตัวเราแน่นอนไม่ช้าก็ไว เพราะฉะนั้นวิชามีดีมีโทษรู้วิชานั้นดีว่าไม่มีวิชาให้ได้รู้ แต่เมื่อรู้แล้วก็จงนำวิชาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และเมื่อสังคมดีเราเองก็จะเป็นผู้ที่ทำให้วิชายังคงอยู่และเมื่อรู้วิชาจงถ่ายทอดไปให้ท่านที่ไม่รู้ได้รู้ได้เห็นได้ระวัง

ส่วนวิธีแก้ วิชาเทียนมหารำลึก คือ เขียนชือของผู้ที่สงสัยว่าโดนทำเสน่ห์ด้วยวิชานี้ ลงบนเทียน19เล่ม จุดเทียนถวามพระพุทธและสวดมนต์บท อิติปิโส 9 จบ ห้ามลุกไปไหนจนกว่าจะสวดเสร็ด9จบ ทำอย่างนี้ไป2วัน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นมากอาการที่คิดถึงจะหายไปแต่ความผูกพันและความทรงจำเรื่องเหตุการต่างๆยังอ่และคุณเองจะต้องกำจัดมันไปจากหัวคุณและหัวใจ

สุดท้ายนี้ ผมเองหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ความรู้จากเรื่องราวที่ผมเขียนบทความนี้ไม่มากก็น้อง แต่ที่แน่ๆท่านได้รู้ว่า มีคนอย่่งผมที่เรียนวิชาชมาจริงๆและใช้ได้จริงๆ จนที่ให้ผมได้เป็นทีู่้จักของคนทั่วไปและรายการเคเบิ้ลต่างๆก็ได้รับเชิญไปจัดรายการและให้ความรู้เรื่องไสยศาสตร์มากมายหลายช่อง แต่ว่าวันนี้ท่านผู้อ่านไม่ต้องไปหาดูที่ไหน เพราะว่าท่านสามารถติดตามอ่านได้่ทางหนังสือพิมพ์บางกอกูเดย์เล่มนี้แหละ


สามารถติดต่อสอบถามเรื่องการสักยันต์หรือดูดวงฟรี!!!!  ได้ที่  085-449-1499

www.facebook.com/page.pu108

อ.เอก ธนกร เปิดกรรมพลิกดวง

(ยินดีให้คำแนะนำทุกท่านนะครับ)

***แต่ถ้าอยากให้อาจารย์ทำเสน่ห์ให้ ค่าทำพิธี5,000บาทภายใน1ดือน ถ้าไม่สำเร็จยินดีคืนเงิน****

การเลือกซื้อรถมือ1และรถมือ2

การเลือกรถมือ1และมือ2 เพื่อเสริมความร่ำรวย และเพิ่มความมั่นคงของชีวิต

         สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านวันนี้ ผม อ.เอก ธนกร เปิดกรรมพลิกดวง มีเรื่องราวดีๆมาแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ได้อ่านและนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง ในช่วงนี้รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายคนโทรเข้ารายการที่ผมจัด ถามเรื่องการเลือกซื้อรถทั้งรถเล็กรถใหญ่ ผมก็ให้คำแนะนำหลายต่อหลายหน ก็เลยมีแนวคิดเรื่องการให้คำแนะนำเรื่องการเลือกซื้อรถให้เสริมความร่ำรวยและเพิ่มความมั่นคงของชีวิตคุณ

 วิธีการนั้นก็ไม่ยากเพียงแต่อ่านให้จบและนำไปใช้แค่นี้เองง่ายๆ วิธีการมีดังนี้

วิธีการในการเลือกรถแบบง่ายๆและวันออกรถแบบง่ายๆ แต่ไม่ต้องเคร่งครัดมาก

คนเกิดวันอาทิตย์

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 6 และเลข 3 ไม่ควรออกรถ ในวันศุกร์-อังคาร รถสีฟ้า สีน้ำเงิน ไม่ควรออกรถสีนี้ เพราะเป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันจันทร์

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 1 และเลข 5 ไม่ควรออกรถ ในวัน อาทิตย์-วันพฤหัส รถสีแดง สีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันอังคาร

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 2 และเลข 1 ไม่ควรออกรถ ในวัน อาทิตย์-จันทร์ รถสีขาว สีเหลืองนวล เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพุธ (กลางวัน 06.01-18.00)

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 3 และเลข 8 ไม่ควรออกรถ ในวันอังคาร-พุธกลางคืน รถสีชมพู สีแสดเเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพุธ (กลางคืน 18.01-06.00)

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 5 และเลข 4 ไม่ควรออกรถ ในวัน พฤหัส-อาทิตย์ รถสีส้ม สีทอง

เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันพฤหัสบดี

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 7 ไม่ควรออกรถ ในวันเสาร์ รถสีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันศุกร์

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 8 และเลข 7 ไม่ควรออกรถ ในวันพุธกลางคืน-เสาร์ รถสีเทา สีบรอนซ์ สีม่วง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันเสาร์

- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 4 และเลข 6 ไม่ควรออกรถ ในวันพุธกลางวัน-ศุกร์

เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด รถสีเขียว สีแสดเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

สุดท้ายนี้ขอให้ท่านผู้อ่านจงมีความสุขและนำความรู้เรื่องโหราศาสตร์ที่ผมแนะนำนี้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันชีวิตและครอบครัวของ่่านผู้อ่าน และขอให้ติดตามอ่านในฉบับหน้าว่าจะนำเรื่องราวอะไรมาแนะนำให้ความรู้ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจอยากปรึกษาผม สามารถโทรหาผมที่เบอร์ 1900888448 ส่วนเบอร์เลขา 085-449-1499,085-159-1840