Powered By Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สักยันต์ทำไมไม่เคยของขึ้นเล

 สักยันต์ทำไมไม่เคยของขึ้นเลย


    เรื่องนี้เป็นเรื่องของ จิตอ่อน กับ จิตแข็ง ครับ แต่การที่สักแล้วของไม่ขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติครับ เพราะอักขระวิชาและพลังพุทธคุณก็ยังคุ้มครองตัวอยู่ แต่ถ้าอยากของขึ้นจริงๆ ในเบื่องต้นผมก็มีวิธีการแนะนำให้ได้ฝึกฝนในคลิปนี้ครับ

    สวัสดีครับผมอาจารย์เอกธนกรครับซินแสรวยง่ายครับ  วันนี้เราจะมาคุยกันในประเด็นหัวข้อเรื่องสักยันต์ทำไมไม่เคยของขึ้นเลย ต้องบอกว่ามีหลายคนนะครับที่ถามมานะบอกว่า "อาจารย์ผมสักยันต์มาเนี่ยหรือว่าไปงานไหว้ครู  ไม่เคยของขึ้นเลยเป็นเพราะอะไรครับอาจารย์"

    มีหลายๆคนแต่ก็เป็นกังวลนะว่า เออ หรือว่าอาจารย์ที่เขาสักยันต์ให้ผมไม่เก่งแต่ว่าเพื่อนผมก็ของขึ้นกันนะอาจารย์ บางคนเนี่ยก็ของขึ้นจนควบคุมไม่ได้เลยอ่ะ ผมก็เกิดความสงสัยเป็นกังวลมากนะ 

    อันนี้ก็จะมาเล่ามาอธิบายมาบอกให้ทุกท่านฟังกันและกันในประเด็นหัวข้อเรื่องนี้อันดับแรก ก็ก่อนอื่นก็ต้องอย่าคิดมากนะครับ การที่เราไม่มีอาการของขึ้นเนี่ย ทางหลักวิชาถือว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป แต่ว่าไอ้ของไม่ขึ้นเนี่ยหรือว่าไม่รู้สึกเนี่ย มันต้องดูนะครับ สมมติว่าในกรณีที่ว่าเวลาเราปลุกเสกหรือว่าครูบาอาจารย์สวดหรือว่าในพิธีไหว้ครูมีอาการ คือ ตัวชา ขนลุก หายใจแน่นหน้าอก นี้คือ มีอาการแปลกๆหรือว่าร้อนวูบวาบตามตัวแบบนี้แหละครับก็ถือ ว่าของมันมาแล้ว

    แต่บ้างมีบางคนร้อนที่ใบหู บางคนร้อนที่ตัว บางคนรู้สึกมันผ่าวๆนะเหมือนคนจะเป็นไข้ นี่แหละอาการเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในอาการของขึ้นแต่แค่ว่าในบางครั้งการที่จะของขึ้นออกอาการกระโดดเป็นเสือเป็นสิงห์เป็นหนุมานมันก็มีในเรื่องของจิต จิตหรือว่าพลังพลังจิตเนี่ยแต่ละคนมันไม่เหมือนกันทางวิชาและบางคนบอกว่าคนที่ขึ้นง่ายๆนะ 

    ของขึ้นมาจากการไปได้ยินพระสวด ของขึ้นจากไปพิธีไหว้ครูของก็ขึ้นหรือบางคนนี่น้าแค่ได้ยินเสียงบทสวดมนต์นี่ของขึ้น อันนี้เนี่ยในทางวิชาเรียกว่า เป็นคนจิตอ่อนเป็นคนจิตอ่อน แต่ว่าบางคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยนะครูบาอาจารย์เป่าจนหมดหรือลมหายใจจะหมดจากท้องหมดจากพุงไปแล้วนะ ปลุกยังไงก็ไม่ขึ้นแล้วไม่มีอาการร้อนหนาวพูดว่าไปมา 3-4 ที่ ที่ไหนที่ว่าเขาเก่งๆให้ครูบาอาจารย์    ท่านสักให้ท่านเรียกสูตรเรียกนามปลุกเสกแล้วเราก็ไม่มีความรู้สึกเรื่องเหล่านี้เลยแสดงว่านี้เป็นคนจิตถือว่าเราอยู่ในโหมดของคนจิตแข็ง

    เมื่อเรามีความจิตแข็งมากเกินไปเนี่ยก็ทำให้เราไม่สัมผัสพลังพวกนี้แต่ถามว่าคุณรู้สึกได้ไหม ก็สามารถฝึกได้ การที่จะรับรู้พลังพวกนี้เนี่ยมันก็คือมีการฝึกง่ายๆนะครับไม่ยาก เขาเรียกว่าเป็นการฝึกสมาธิฝึกจิต

     โดยแค่แบบทำมือหุบเข้าหุบออกเดี๋ยวอาจารย์จะเอารูปภาพเอาคลิปมาให้ดูว่ามันแค่ทำแบบนี้เองนะก็แค่คือแค่เอามือเนี่ยนะทำในท่าพนมมือแล้วก็ยื่นเข้ายื่นออกช้าๆสังเกตลมหายใจเข้าลมหายใจเนี่ยนะ จับนะครับเป็นสมาธิสังเกตกึ่งกลางระหว่างฝ่ามือในระหว่างที่เราทำมือยื่นเข้ายื่นออกนะไปถ้าในท่านี้ในท่าที่เราเหมือนยกมือไหว้ทำการแล้วก็อย่าให้มันชนกันสังเกตเอาสมาธิไปจับกึ่งกลางระหว่างฝ่ามือมันจะมีความรู้สึกเหมือนแม่เหล็กดูดดูด ดูดผลัดกันแบบนี้เป็นการฝึกสมาธิในเบื้องต้นถ้าเป็นกรรมฐานเนี่ยอยู่ในขั้นของขณิกสมาธิ สมาธิในเบื้องต้นลองเอาใจตั้งใจที่จะสัมผัสพลังงาน 

    ถ้าคุณไม่รู้สึกนะคุณก็ยังต้องฝึกอีกเยอะมากเลย เด็กๆนะตอนเด็กๆนะอาจารย์มีโอกาสได้ไปเรียนสมาธิกรรมฐานกรรมฐานที่เรายื่นมือเข้ายื่นมือออกก็ให้ฝึกให้ทำแบบนี้เป็นสมาธิในเบื้องนเป็นการรับรู้ถึงพลังจักรวาลการยื่นเข้ายื่นออกตรงนี้เนี่ย 

    ถ้าเกิดว่าโดยปกติแล้วเนี่ยเราถ้าเราทำมือเข้าออกแบบนี้ แต่ว่าเราเองเนี่ยคือไม่มีสมาธิก็เหมือนกับเรายื่นมือเข้ายื่นมือออกและเราก็คุยกับเพื่อนไปดูทีวีไปเราไม่รู้สึกครับแต่เมื่อเราเอาสมาธิไปจดจ่อกับมันแล้วก็จะสัมผัสถึงพลังงานที่มันมีความหนาแน่นได้นะครับอันนี้คือนี่คือวิธีการในการที่จะสัมผัสแต่อันนี้อาจารย์ให้เราไปนะว่าการที่เราของไม่ขึ้นมันเป็นเรื่องของจิตของเราเองที่เป็นคนจิตแข็งคนที่เป็นจุดแข็งเนี่ยนะอย่าว่าแต่ของไม่ขึ้นเลยพี่ยังหล่อไม่ได้เลยนี่ก็ดีนะข้อดีของคนที่จิตแข็งคือผีก็หลอกเรายากนอกจากเราตกใจขนลุกอะนะใช่ไหมมันก็จะน้อยครั้งมากเลยส่วนคนที่ของขึ้นง่ายๆเหมือนกับที่เคยเล่าไปว่าของขึ้นไม่ใช่ของดีอย่างบางคนโอ้โหขึ้นจนควบคุมไม่ได้ขึ้นจนแยกไม่ออกเราบ้าหรือว่าเราจริง บางคนเนี่ยขึ้นจนญาติระอาเลยทีเดียวรู้จักไหมครับว่าระอา ไปกินเหล้ากับเพื่อนไปกินอะไรกับเพื่อนมีงานสังสรรค์งานแต่งงานบวชของขึ้นตลอดทุบโต๊ะตลอดใครเค้าอยากจะกินข้าวกับเราเองบางครั้งการที่เราไม่มีอาการของขึ้นเนี่ยก็ถือเป็นเป็นเป็นสิ่งที่ดีอย่างแต่วิธีการนอกเหนือจากที่อาจารย์ได้เล่าไปแล้วว่าให้ทำมือหุบเข้าออกแบบนี้หรือทางวิชาหรือเรียกว่าทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าลูกบอลพลังจิตอันนี้อาจารย์ก็รู้จักตอนที่อาจารย์ศึกษากรรมฐานแล้วก็ตอนที่จะเรียนไทเก็กนะก็เลยรู้จักเรื่องของการทำสมาธิในรูปแบบนี้ ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งการที่เราจะกระตุ้นพลังในการที่จะมีอาการของขึ้นได้ก็คือการที่เราไหว้พระสวดมนต์บ่อยๆการที่เราไหว้พระไหว้พระเนี่ยและคนที่สักยันต์จะมีอำนาจของพลังอักขระที่มันเป็นพุทธคุณวิ่งตามตัวทำให้บางคนเนี่ยที่เป็นคนที่มีเซ้นง่ายก็จะรู้สึกวูบวาบแต่ว่าอย่างคนที่มีจิตแข็งก็จะค่อยๆมีพลังในเรื่องการรู้สึกการสัมผัสได้ว่าการหยั่งรู้ก็จะค่อยๆเกิดขึ้นแล้วก็ยังไงบางคนเนี่ยก็คือถ้าเกิดว่าตัวเราเองมีการฝึกในเรื่องของสมาธิฝึกสมาธิตัวนี้แหละพลังสมาธิเนี่ยจะค่อยเปิดเซ้นเปิดจิตเปิดญาณเราก็ในบางคนเนี่ยกลายเป็นว่าไม่ได้มีอาการกระโดดเป็นลิงไม่ได้ขึ้นเป็นเสือแต่เกิดมีตาทิพย์ขึ้นก็มีเหมือนกันและการสักยันต์เนี่ยนะคุณสมบัติการสักยันต์จริงๆมันไม่มันไม่ได้ทำให้เกิดญาณนะเพราะว่าญาณในสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเคยสอนไว้ว่าการจะเกิดญาณวิถีน่าจะเกิดจากพลังสมาธิแต่ว่าเท่าที่อาจารย์สังเกตมามีหลายๆคนแม้แต่ตัวอาจารย์เองหรือว่าเพื่อนอาจารย์หลายๆคนในยุคที่เราไปสั่งกับอาจารย์แล้วท่านจะมีอาการหนึ่งครับคือหมายถึงว่าคือเราสักไปแล้วเนี่ยเมื่อเราสักจำนวนยันต์เนี่ยมันเยอะมากในช่วงที่เราสักเยอะเนี่ยเราก็เป็นคนที่เล่นของนะเชื่อมั่นในคาถาเวทย์มนต์สวดมนต์อยู่ตลอดเวลาจากที่เราเป็นคนที่ไม่เคยมีสัมผัสไม่เคยเจอผีไหมเคยเห็นผีแล้วก็จะเริ่มเห็นผีเห็นวิญญาณอันนี้เนี่ยก็ลองสังเกตดูนะครับว่าเป็นจริงไหมหรือว่าลองถามเพื่อนที่เขาเคยของขึ้นไรเงี้ยและหลายคนเป็นเพราะว่าพลังงานจะเรียกว่าพลังงานและพลังงานบางอย่างความศักดิ์สิทธิ์และมันสะสมอยู่ในตัวเราแต่อาจารย์ไม่ได้บอกนะครับว่าสักยันต์แล้วจะเกิดทิพยานหูทิพย์ตาทิพย์แบบนี้ไม่ใช่ ที่มันเกิดจากการที่กุศโลบายครูบาอาจารย์ที่ทำให้เราเป็นคนไหว้พระใส่บาตรสวดมนต์แล้วผลพลอยได้เรื่องจะเกิดขึ้นนอกจากเรื่องของขึ้นก็คือเราก็จะเชื่อมั่นว่าอะไรเทวดามีจริงผีมีจริงวิญญาณมีจริงความดีและความเลวมีอยู่จริงสวรรค์และนรกก็มีอยู่จริงนี่คือสิ่งที่เราเองเนี่ยถ้าเป็นคนที่สักยันต์ครูบาอาจารย์ท่านว่าอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์นี้อยู่ที่ความเชื่อแต่ถ้าเกิดเรามีความศรัทธาในอักขระเลขยันต์ในมนตราตาคมที่เราได้เสกได้เปล่าหรือครูบาอาจารย์ได้เสกได้เปล่าให้เราถึงเราจะไม่เคยของขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวบางครั้งที่จะได้เข้าไปนะถ้าใจเราเชื่อมั่นก็บังเกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์แล้วแต่คันนี้ถ้าเกิดว่าเราเองเนี่ยมีอาการมันก็แค่เสริมความมั่นใจแต่เราไม่รู้หรอกครับว่าคนที่ของขึ้นในงานพิธีไหว้ครูหรือว่ามาสักกับครูบาอาจารย์แล้วเราของขึ้นแบบแกล้งของขึ้นน่ะคือไม่มีใครรู้เท่ากับตัวเรา ครูอาจารย์รู้ไหมรู้รู้แต่ว่าจะรู้แล้วมันไม่ว่าบางครั้ง

เนี่ยมันต้องบางครั้งก็ว่าว่าแต่ว่าไม่ได้ว่าต่อหน้าคนอื่นก็คือบางครั้งเนี่ยก็จะพูดอ้อมหรือว่าอยู่กันสองคนบางทีก็ไม่อยากให้เขาเกิดความละอายแก่ใจบางครั้งก็จะบอกว่าเออของดีไม่ได้อยู่ที่ของขึ้นหรอกเพราะว่าอาจารย์มีเพื่อนอาจารย์หรือว่าตัวจะรู้ว่ามีลูกศิษย์อาจารย์มาหลายคนในช่วงวัยเด็กเราก็เคยแกล้งของขึ้นก็มีเราของขึ้นจริงมีไหมก็มีแต่ส่วนใหญ่แล้วนะครับคนมากมายก่ายกองที่ชอบโชว์ก็มีไอ้ของขึ้นจริงเนี่ยเราก็ไม่ได้ห่วงหรอกครับแต่บางครั้งเนี่ยการที่เราของขึ้นเก๋ๆนะครับในทางวิชาก็บอกว่าถือเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์ครับเราไปแกล้งฟอร์มเป็นของขึ้นและแกล้งฟอร์มเป็นพ่อแก่เป็นพ่อฤาษีเป็นหนุมานเป็นอะไรก็แจ้งมาด้วยความคึกคะนองด้วยความสนุกสนานทางวิชาเขาบอกว่าอาจจะเกิดมงคลแก่ตัวหรือว่าในบางคนถึงจะต้องอาบน้ำมนต์ธรณีสารในที่สุดก็คือถึงเราจะไม่ได้ของขึ้นเหมือนคนอื่นเขาเพราะเราไม่รู้เขาขึ้นจริงไม่จริงเราแค่ขนลุกขนพองสยองเกล้าหรือร้อนวูบวาบตามตัวมีอาการคันยุบยิบตามตัวในขณะที่เราส่วนหรือว่ามีเรื่องมีราวจิตเรารวบรวมเป็นสมาธิมีสติอธิษฐานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ของท่านช่วยเหลือมีสติในการเอาตัวรอดผ่านพ้นจากวิกฤตในทุกๆเรื่องได้เงินนี้คือสูงสุดและนี่คือผลของคนที่สักยันต์เป่าคาถาถึงเราจะไม่เคยของขึ้นนะแต่ว่าในชีวิตนี้เราเนี่ยถ้าเราเองนะเปาเวทมนตร์คาถาทุกวันอำนาจคงกระพันเป่าให้ครบทุกแขนงเข้าไว้หรือว่าเราสวดอิติปิโสสวดพาหุง สวดอาราธนาศีล นี้เป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะก็เมื่อนั้นเราสวดมนต์พระคาถาสวดพุทธมนต์คาถาต่างๆถ้ามันไม่ใช่ว่าเป็นวิบากกรรมของเราที่เราจะต้องเจอศัตรูไม่ใช่วิบากกรรมที่เราเคยกระทำเอาไว้แบบอย่างเป็นหนักหน่วงที่เขาจะต้องมาเล่นงานเราจริงๆครูบาอาจารย์จากปัดป้องทำให้ในชีวิตของคนที่เล่นเวทมนต์คาถาหรือว่าสักยันต์ที่ถือนะไม่ใช่แค่สักอย่างเดียวคือบางคนสักอย่างนึงไปสักมาในวัยเด็กแล้วก็ซื้อไม่ได้สวดไม่ได้รู้อะไรอีกเลยไปเอาตังค์ใส่พานแล้วก็ไม่ใส่อันนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไรคนเล่นจริงคือสักมารูปเดียวก็ได้สักมาหลายรูป แต่ว่าสวดสวดมนต์สวดพุทธมนต์อิติปิโสคือบางคนก็คือครูบาอาจารย์มีคาถาเสกข้าวครูบาอาจารย์บางคนให้คาถาเสกอาบน้ำล้างหน้าก่อนออกจากบ้านทำตามครูบาอาจารย์สั่งสอนทุกประการแบบนี้ครับก็จะเล่นของขึ้นบางคนก็คำว่าเล่นขึ้นไม่ได้ว่ากระโดดถ้าเป็นลิงนะหมายถึงว่าบางคนเนี่ยหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวไปทำงานปกติถ้าเดินไปเตะกับตะปูไม่เข้าอะไรแบบนี้ก็มีเหมือนกันทุกวันแต่ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุก็เจ็บหนักนะโดนตะปูเลือดออกมีดบาดเลือดออกก็จะต้องไปดูว่าเราเองให้ทำตามครูบาอาจารย์ได้สั่งสอนไหมหรือบางคนก็คือสวดแบบนั้นจดสวดแบบมันไม่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่จะรับรู้ได้คือไม่ขนลุกขนพองเขาเรียกว่ายังเล่นมนต์ไม่ขึ้นไปจะต้องไปเล่นให้ขึ้นสวดแล้วขนลุกน่าจะชอบพูดในทุกๆ ที่คนขนลุกขนพองใช้ได้อาจารย์ทำให้คนรู้แหละมันร้อนวูบวาบจะใช้ได้อาจารย์แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยทำตามที่คลิปนี้ทำมาเพื่อแก้ปัญหานะในเรื่องของของไม่ขึ้นไม่รู้สึกอะไรเลยก็คิดว่าน่าจะเป็นการแก้ปัญหาผู้สนใจแล้วนะก็ใครอยากรู้สิ่งใดประการใดก็ส่งคำถามเข้ามาฝากติดตาม facebook อาจารย์ด้วยนะครับ facebook fanpage ธนกรซินแสนง่าย


ฝากกดซัปสไคร้ กดสั่นกระดิ่งแจ้งเตือน และกดแชร์กดไลทด้วยนะครับ ติดตามช่องYOUTUBEของผม https://www.youtube.com/c/14Teeyai

ติดตามเพจ FB.อ.เอก ธนกร ซินแสรวย https://www.facebook.com/page.pu108

✒ติดต่อสอบถาม... ☎085 449 1499 เลขาแหม่ม 📧Line : http://line.me/ti/p/~mammiepoko.o https://youtu.be/g6iYxDtbqVY



# อ.เอก ธนกร ฮวงจุ้ยรวยง่าย

#  ฮวงจุ้ยรวยง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น