การสักยันต์และการทำเสน่ห์ของ ตำหนักปู่ฤาษี108บางซื่อ
โดยมี ผม อ.เอก ธนกร เปิดกรรมพลิกดวง และ อ.อิฐ พิชิตชัยเป็นผู้ทำพิธี
การสักยันต์และการทำเสน่ห์ มีมาแต่โบราณ์
การสักยันต์ คือการใช้เหล็กแหลมจุ่มหมึกหรือน้ำมันที่ผ่านการปลุกเสกแล้วแทงลงบนร่างกายให้เกิดเป็นลวดลายต่างๆและมีการอธิฐานประจุพลังให้เกิดฤทธิ์ต่างๆตามแต่ผู้ที่เป็น ครูบาอาจารย์จะกำหนดจิต
แต่ทั้งการสักและการทำเสน่ห์ มี2สายหลักๆ
1.สายพุทธคุณ คือ การนำพระคาถาอันเป็นมงคลมาใช้เพื่อคุ้มครองและขจัดสิ่งอัปมงคล
2.สายไสยศาสตร์ คือ การนำเอาพระเวทอาคมของฤาษีที่มีทั้งดีและไม่ดีมาใช้เพื่อให้เกิดผลต่างๆ หนักไปทาง โลกเช่น การทำเสน่ห์ การผูกดวงหนุนดวง คงกระพันชาตี เป็นต้น
![]() |
แต่ขลังแน่นอนคับ |
การสักยันต์นั้น มีวิชาที่ใช้กันอยู่อย่างแพร่หลายและมีสายสำนักที่แตกต่างกัน แต่เนื้อหาและพระคาถาส่วนใหญ่ก็มีแม่บทหรือที่เรียกว่า ปฐมบทเดียวกัน และยังมีภาษาที่อาจจะแตกต่างกับบ้างแล้วแต่ถิ่นหรือสายวิชาที่ร่ำเรียนกันมา แต่ผู้เป็นอาจารย์ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาในการเรียนวิชาและฝึกจิตอย่างน้อยก็ 5-10 ปี เนื่องจากวิชาเหล่านี้ไม่ใช่วิชาที่ใครจะมาขอเรียนแล้วถ่ายทอดกันง่ายๆ เพราะต้องเริ่มต้นมาเป็นศิษย์ในสำนักก่อนแรกๆก็มาสัก และคอยรับใช้ครูบาอาจารย์ช่วยงานหยิบจับนั้นนี้จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา จากนั้นอาจารย์อาจใช้ให้ทำอะไร ที่มันต้องใช้สมาธิ แต่ก็แบบสอนไปด้วยโดยไม่บอกว่าสอน คนที่หนีงานก็จะอดได้วิชาไป เช่น ให้ฝนหมึกแล้วก็มีคาถาให้ท่องคงกระพันธ์และมหาเสน่ห์ , ตัดนามบัตรแล้วมีคาถาให้ท่องเป็นคาถาไล่ผี หรือพระคาถาทำลายศัตรู ,นวดให้ให้ท่องเป็นคาถานวดรักษา เป็นต้น แล้วแต่ว่าจะสอนอะไร บางวันก็ไม่ได้สอนคุยกันเรื่องนั้นนี้ หากใครถอดใจไปก่อน ก็อดเรียน หรือใครคิดว่าตนเองเก่งก็จะไปเปิดสำนักเองโดยที่วิชายังไม่แข็งก็จะเป็นบ้าไปเพราะ “ผิดครู”
ผู้ที่จะเป็นอาจารย์ได้จึงยากลำบากมาก และต้องมีสายสำนักที่ตนร่ำเรียนเป็นหลักแหล่งไม่ใช่ว่า อ้างว่าเราไปเป็นศิษย์ของที่นั่นที่นี้เพียงแค่มีภาพถ่ายรับตำราหรือรับวิชามันไม่พอ แต่ครูอาจารย์ท่านก็ต้องมีจิตเมตตาเราด้วยถึงเวลาท่านก็จะบอกเราว่า ไปเปิดสำนักเป็นของตนเองได้แล้ว แต่ว่ากว่าจะบอกนั้นบางคนอยู่เป็น 10 ปี เพราะอาจารย์ต้องรู้ว่าศิษย์แน่จริงก่อน โดยมีการทดสอบวิชา เช่น ให้เสกฝาเบียร์แล้วก็ใช้มีดเฉือนแขนตัวเองถ้าไม่เข้าก็ผ่าน ต่อมาให้คนอื่นเฉือนบ้างถ้าไม่เข้าก็ผ่าน ต่อมาให้คนอื่นถือฝาเบียร์และเราเฉือนถ้าไม่เข้าก็ผ่าน แต่ทั้งหมดถ้าเฉือนแล้วเข้าก็ให้ใช้คาถาประสานเนื้อและห้ามเลือด และอยู่ต่อไปแสดงว่าไม่ผ่าน กว่าจะเป็น "อาจารย์" คนได้ว่ามันไม่ใช่ของง่าย วิชานั้นมี “ครู” คนเรียนวิชาเหล่านี้จึงต้องรักเคารพ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ มากๆ เพราะเป็นผู้ให้ชีวิตและวิชา
![]() |
สักสี เพราะเคารพและเชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้นหลังจากที่สักน้ำมันไปหลายยันต์แล้ว |
วิชาที่ใช้สักและเรียนกัน มีหลากหลายวิชา มีวิธีการแล้วคุณสมบัติ จุดประสงค์ที่จะนำไปใช้ต่างกัน จึงแบ่งได้ดังนี้
1.(หมวดพระคาถา) คือ เรียนการใช้คาถาต่าง ที่ใช้กับตนเองและคนอื่น
1. วิชาพุทธมนต์คาถาคุ้มตน สอนว่าต้องเริ่มสวด บทไหนก่อนไหนหลังอย่างถูกต้อง และมีความหมายอย่างไร ใช่ยังไง
2. วิชามหาเสน่ห์มหานิยม เป็นวิชาลำดับต้นๆที่ต้องเรียนหรือใช้ เพราะคนเรามีเมตตาอย่างเดียวไปไหนไม่มีเรื่องไม่มีศัตรูและไม่อด มีแต่คนรัก
3. วิชาแคล้วคลาด เป็นวิชาที่ช่วยให้เรารอดพ้นจาก อันตราย จากคน หรือเหตุการณ์ต่างๆ
4. วิชาคงกระพันธ์ชาตี เป็นวิชาที่ใช้คู่กับแคล้วคลาด เพราะจะได้ไม่โดน ไม่เจอ ไม่เจ็บ และไม่เข้า
5. วิชาหนุนดวงชะตาเสริมโชคลาภและวาสนา เป็นวิชาการหนุนดวงให้มีโชค และมีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิต
3ท่านนี้ อายุรวมๆก็คง 100กว่าปีขึ้น แต่เค้าเชื่อว่าดี เลยยอมเจ็บตัว หลังจากสักน้ำมันไปแล้วการเงินดีและคนที่บ้านรักและหวง |
2.(หมวดโหราศาสตร์) เพื่อช่วยแก้ปัญหาและรู้ทิศทางในการแก้ไขว่าดีร้ายอย่างไร
1. รู้ตน คือ รู้ดวงเราเองว่าดีร้าย ต้องแก้ด้วยคาถาหรือพิธีกรรม
2. รู้คน คือ รู้ว่าคนที่มาหาเราดีร้าย คนที่มาให้ช่วยดีร้าย มีปัญหาอะไร ต้องแก้ด้วยคาถาหรือพิธีกรรม
3. รู้การณ์ คือ รู้ว่าช่วงเวลานี้เป็นอย่างไร ต้องแก้ไขอย่างไร ต้องแก้ด้วยคาถาหรือพิธีกรรม
4. รู้สถานที่ คือ รู้ว่าสถานที่นี้ดีหรือร้ายแก้ไขอย่างไร ต้องแก้ด้วยคาถาหรือพิธีกรรม
สักยันต์นารีเหลียวหลัง และยันต์เสกอาหาร ให้คนกินแล้วรัก อายุไม่สำคัญแต่หัวใจยังมีรักอยู่เลยต้องใช้ตัวช่วย 3.(หมวดเลขยันต์และพิธีกรรม)เป็นการใช้วิชาที่เกี่ยวกับ การใช้อักขระเลกยันต์และพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยแก้ปัญหาหรือใช้อาถรรพ์วิชา 1. อักขระเลขยันต์ ใช่ เขียนลงวัตถุหรือ สักลงร่างการ เพื่อผลทางด้านต่างๆตาม แต่วัตถุประสงค์ที่จะใช้ เช่น สักลงร่างกายเพื่อผลทางเสน่ห์ไปไหนมีคนมารักมาหลงโดยไม่รู้ว่าทำไมต้องรักต้องชอบคนๆนี้ หรือเพื่อใช้คุ้มครอง เสริมอำนาจ แม้แต่หนุนดวงชะตาก็ทำได้เช่นกัน ทั้งนี้การสักยันต์นั้นแตกต่างจากการทำเสน่ห์ตรงที่สักยันต์นั้นจะใช้ได้กับทุกคน แต่การทำเสน่ห์ใช้เฉพาะคน 2. พิธีกรรม อันนี้มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ดวง หรือบวงสรวงศาล,เทพ,พรหม บูชาฤกษ์ เพื่อผลทางมงคล 3. การใช้อาถรรพ์ วิชาไม่ว่าจะเป็นการเรียกจิตคนรักเก่าให้คืนกับ เรียกจิตคนที่เราแอบชอบให้มีใจรักเรา ยังรวมถึงการทำเสน่ห์อีกด้วย การทำพิธีนั้นนอกจากจะมีการทำเสน่ห์แล้วยังมีการทำลายให้แตกแยกอีกด้วย ถือว่าเป้นของคู่กัน และการทำพิธีนั้นยังมีทั้งด้านที่ดีเช่น เสริมดวง และทำลายดวงคู่แข่งก็มี เพื่อผลทางด้านต่างๆแล้วแต่เจตนาและจุดประสงค์ |
สักสีคับ ขนาดพี่เค้าอายุมากแล้วแต่มากด้วย ศรัทรา |
4.ผู้มาสักกับผู้มาเรียนนั้น ปฏิบัติตนต่างกัน และมีกฎข้อห้ามที่ต่างกันด้วย เพื่อความเป็นมงคลและความขลังของวิชา
กฎของผู้มาสัก มีข้อห้าม 10 ข้อ ( ของตำหนักปู่108 สำนัก อ.เอก ธนกร (อ.เอก บางซื่อ ) และ อ.อิฐ พิชิตชัย )
1. ห้ามลบหลู่ครูบาอาจารย์
2. ห้ามลบหลู่อักขระเลขยันต์
3. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ , ห้ามกินเหล้า ใน “ วันพระเริ่มตั้งแต่ พระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างของอีกวัน ”
4. ห้ามด่าพ่อแม่กัน
5. ห้ามตีกันเองในลูกศิษย์
6. ไม่พูดจาโอ้อวดหรือท้าทายว่าตนเองมีของดี
7. ไม่ประพฤติตนเป็นคนเลว
8. ต้องเชื่อมั่นในคาถาและยันต์ที่ตนมี
9. ไม่ติดสิ่งเสพย์ติดที่ผิดกฎหมาย
10. ไม่ยึดกฎข้อห้ามอื่นๆที่ไม่ได้ห้ามไว้
หมายเหตุ อะไรที่เราทำไม่ได้หรือมีความจำเป็น ให้ตั้งใจแล้วอธิฐานขออนุญาต ปู่ฤาษี108
2. ห้ามลบหลู่อักขระเลขยันต์
3. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ , ห้ามกินเหล้า ใน “ วันพระเริ่มตั้งแต่ พระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างของอีกวัน ”
4. ห้ามด่าพ่อแม่กัน
5. ห้ามตีกันเองในลูกศิษย์
6. ไม่พูดจาโอ้อวดหรือท้าทายว่าตนเองมีของดี
7. ไม่ประพฤติตนเป็นคนเลว
8. ต้องเชื่อมั่นในคาถาและยันต์ที่ตนมี
9. ไม่ติดสิ่งเสพย์ติดที่ผิดกฎหมาย
10. ไม่ยึดกฎข้อห้ามอื่นๆที่ไม่ได้ห้ามไว้
หมายเหตุ อะไรที่เราทำไม่ได้หรือมีความจำเป็น ให้ตั้งใจแล้วอธิฐานขออนุญาต ปู่ฤาษี108
กฎของผู้มาเรียน มีข้อห้าม 15 ข้อ ( ของตำหนักปู่108 สำนัก อ.เอก ธนกร (อ.เอก บางซื่อ ) และ อ.อิฐ พิชิตชัย )
1. ห้ามลบหลู่ครูบาอาจารย์
2. ห้ามลบหลู่อักขระเลขยันต์
3. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ , ห้ามกินเหล้า ใน “ วันพระเริ่มตั้งแต่ พระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างของอีกวัน ”
4. ห้ามด่าพ่อแม่กัน
5. ห้ามตีกันเองในลูกศิษย์
6. ไม่พูดจาโอ้อวดหรือท้าทายว่าตนเองมีของดี
7. ไม่ประพฤติตนเป็นคนเลว
8. ต้องเชื่อมั่นในคาถาและยันต์ที่ตนมี
9. ไม่ติดสิ่งเสพย์ติดที่ผิดกฎหมาย
10. ไม่ยึดกฎข้อห้ามอื่นๆที่ไม่ได้ห้ามไว้
2. ห้ามลบหลู่อักขระเลขยันต์
3. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ , ห้ามกินเหล้า ใน “ วันพระเริ่มตั้งแต่ พระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างของอีกวัน ”
4. ห้ามด่าพ่อแม่กัน
5. ห้ามตีกันเองในลูกศิษย์
6. ไม่พูดจาโอ้อวดหรือท้าทายว่าตนเองมีของดี
7. ไม่ประพฤติตนเป็นคนเลว
8. ต้องเชื่อมั่นในคาถาและยันต์ที่ตนมี
9. ไม่ติดสิ่งเสพย์ติดที่ผิดกฎหมาย
10. ไม่ยึดกฎข้อห้ามอื่นๆที่ไม่ได้ห้ามไว้
11.ห้ามแนะนำคนอื่นด้วยความรู้ที่ยังไม่รู้จริง
12.ห้ามตั้งตนเป็นผู้วิเศษ เพราะไม่มีใครเหนือกรรม
13.ห้ามตั้งตนเป็นอาจารย์ก่อนที่อาจารย์จะบอก
14.ห้ามเผยแพร่วิชาของสำนักหากไม่ได้รับอนุญาต
15.ห้ามแกล่งแย้งชิงดีกันเองในลูกศิษย์และต้องเคารพศิษย์ที่มาก่อน และพ่อแม่ครูอาจารย์
หมายเหตุ อะไรที่เราทำไม่ได้หรือมีความจำเป็น ให้ตั้งใจแล้วอธิฐานขออนุญาต ปู่ฤาษี108
หมายเหตุ อะไรที่เราทำไม่ได้หรือมีความจำเป็น ให้ตั้งใจแล้วอธิฐานขออนุญาต ปู่ฤาษี108
*** คลิปการลงนะหน้าทอง(วิชาเป่าทอง นาคทอง) และการสักยันต์และการอธิบายเรื่องการสักยันต์***(-/\-)
คลิปการลงนะหน้าทอง(เป่าทอง) และการสักยันต์
คลิปการอธิบายเรื่องราวของการสักยันต์
คลิปลองของ
คลิปโดนยิง
การทำเสน่ห์ คือการนำสิ่งของอันเป้นตัวแทนของ ชาย หญิง หรือ ชาย ชาย ,หญิง หญิง มาทำพิธีตามฤกษ์ยามที่ต้องมีการคำนวนจาก ว/ด/ป ของทั้ง2ฝ่าย โดยบางสำนักอาจใช้เป็นเสื้อผ้าของทั้ง2ฝ่ายหรือนำหุ่น ดิน โลหะ แล้วแต่รูปแบบของพิธี มาเป็นตัวแทนในการทำเสน่ห์ให้คนทั้งคู่เกิดความรักกันหลงกัน แบบแยกกันไม่ได้ และคนที่หมดใจกันก็จะสนใจกัน แต่วิชาเหล่านี้ก็จะเสื่อมลงได้เพราะกรรมเป็นตัวกำหนด และเสื่อมได้ถ้าไม่มีศรัทรา ผู้ที่จะทำพิธีจึงต้องมีความเชื่อและทำตามข้อกำหนดของอาจารย์ที่สั่งอย่างไม่ลังเล แต่ของสำนักนี้ไม่มีการให้แก้ผ้าหรือทำอะไรที่ลับหูลับตาคนอย่างแน่นอน
การทำเสน่ห์ มี 2 สาย หลักๆ
1.สายพุทธคุณ คือ การนำพระคาถาอันเป็นมงคลมาใช้เพื่อคุ้มครองและขจัดสิ่งอัปมงคล
2.สายไสยศาสตร์ คือ การนำเอาพระเวทอาคมของฤาษีที่มีทั้งดีและไม่ดีมาใช้เพื่อให้เกิดผลต่างๆ หนักไปทาง โลกเช่น การทำเสน่ห์ การผูกดวงหนุนดวง คงกระพันชาตี เป็นต้น
การทำเสน่ห์ คือการนำสิ่งของอันเป็นตัวแทนของ ชาย หญิง หรือ ชาย ชาย ,หญิง หญิง มาทำพิธีตามฤกษ์ยามที่ต้องมีการคำนวน จาก ว/ด/ป ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยบางสำนักอาจใช้เป็นเสื้อผ้าของทั้ง2ฝ่ายหรือนำหุ่น ดิน โลหะ แล้วแต่รูปแบบของพิธี มาเป็นตัวแทนในการทำเสน่ห์ให้คนทั้งคู่เกิดความรักกันหลงกัน แบบแยกกันไม่ได้ และคนที่หมดใจกันก็จะสนใจกัน แต่วิชาเหล่านี้ก็จะเสื่อมลงได้เพราะกรรมเป็นตัวกำหนด และเสื่อมได้ถ้าไม่มีศรัทรา ผู้ที่จะทำพิธีจึงต้องมีความเชื่อและทำตามข้อกำหนดของอาจารย์ที่สั่งอย่างไม่ลังเล แต่ของสำนักนี้ไม่มีการให้แก้ผ้าหรือทำอะไรที่ลับหูลับตาคนอย่างแน่นอน การทำเสน่ห์ มี2สายหลักๆ
1.สายพุทธคุณ คือ การนำพระคาถาอันเป็นมงคลมาใช้เพื่อคุ้มครองและขจัดสิ่งอัปมงคล
2.สายไสยศาสตร์ คือ การนำเอาพระเวทอาคมของฤาษีที่มีทั้งดีและไม่ดีมาใช้เพื่อให้เกิดผลต่างๆ หนักไปทาง โลกเช่น การทำเสน่ห์ การผูกดวงหนุนดวง คงกระพันชาตี เป็นต้น
แต่ต่อมาภายหลังเห็นว่ามีแนวทางที่คล้ายกันจึงนำมาใช้ร่วมกัน โดยมีการนำพระคาถาและพระเวทมาหนุนกันจึงมี พลานุภาพสูงสุดและเป็นมงคลด้วย การกระทำด้วยวิชาของสำนักนี้จึงไม่มีผลเสียต่อผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ด้วย
วิชาการทำเสน่ห์น้ำมีด้วยกันหลายตำรา แต่สามารถแบ่งได้ดังนี้
1.วิชาทำด้วยการเรียกจิต อันนี้ใช้คาถาและพลังจิต โดยอาศัยวันเดือนปีเกิดและชื่อของ ผู้กระทำและผู้ที่จะถูกกระทำ
2.วิชาทำด้วยเทียนมหารำลึก เทียนประเภทนี้ ต้องมีการเอาชื่อวันเดือนปีและของใช้หรือเส้นผมมาเป็นเครื่องมือร่วมในการทำพิธีด้วย แต่การทำด้วยวิชานี้มีความขลังมากและเห็นผลไว แต่ต้องกำหนดฤกษ์ยามที่ดีและมีการตั้งมนฑนพิธีและเครื่องบวงสรวง ที่วุ่นวายมาก
3.วิชาทำด้วยการผูกหุ่น วิชานี้มี 2 สาย
1.ทำด้วยหุ่นขี้ผึ้ง และฝังเส้นผมของทั้งคู่ลงในหุ้นและผูกด้วยสายสินมัดตราสังข์
2.ทำด้วยหุ่นโลหะ และผูกด้วยผ้ายันต์และมัดด้วยสายสินมัดตราสังข์
3.ทำด้วยหุ่นเสื้อ โดยการเอาเสื้อผ้าของ2ฝ่ายมามัดเป็นหุ่นและมัดด้วยสายสินมัดตราสังข์
(แต่วิธีเหล่านี้ ต้องมีการเลี้ยงผีหรือบวงสรวงบอกเทวดาให้ช่วย จึงมีเครื่องใช้ในพิธีมาก แต่เห็นผลมากเช่นกัน โบราณคนที่จะทำวิชาเหล่านี้ได้เค้าจะไม่ค่อยเปิดเผย แต่จะเป็นที่รู้กันแล้วบอกต่อ เพราะว่าผู้ที่ทำวิชาเหล่านี้จะอยู่ไม่เป็นที่เนื่องจากกลัวการแก้แค้นหรือของตีกลับ ค่าทำพิธีจึงแพง)
4.วิชาการทำด้วยน้ำมันพราย เป็นวิชาที่ทำยากพอสมควร เพราะปัจจุบันจะหา วัด,ศพ,ป่าช้า ที่ตรงตามตำรายากจึงไม่นิยมหรือส่วนใหญ่แล้วก็ทำแบบมั่วๆ แต่ถ้าทำถูกต้องจริงเห็นผลเร็ว วิธีการใช้ก็ทาที่ปลายนิ้วเล็กน้อยและดีดใส่หรือสะกิดตัว
5.วิชาการทำด้วยน้ำหอม เป็นวิชาที่ทำไม่ยาก เพราะเอาน้ำหอม มาปลุกเสกตามตำราที่ว่าด้วยการเสกเครื่องหอม และเห็นผลไวเช่นกันแต่ต้องเจอตัวบ่อยๆและท่องคาถาให้ขึ้นใจ และพยายามไม่ชวนทะเลาะให้เสียบรรยากาศ
6.วิชาการทำด้วยของกิน เป็นวิชาที่ทำไม่ยาก เพราะเอาน้ำตาล มาปลุกเสกตามตำราที่ว่าด้วยการเสกเครื่องของกิน ที่ทำให้หลงเสน่ห์ หรือบางรายใช้ ประจำเดือนแห้ง มาปลุกเสกว่าคาถาตามตำรา อวิชามหาเสน่ห์ เห็นผลไวเช่นกันแต่ต้องเจอตัวบ่อยๆและท่องคาถาให้ขึ้นใจ และพยายามไม่ชวนทะเลาะให้เสียบรรยากาศ
"วิชาเหล่านี้มีจริงจนแต่งเป็นเรื่องราวเล่าตามตำนาน ดังเช่นขุนช้างขุนแผน เป็นต้น"
สนใจ สักยันต์หรือทำพิธี ต่างๆ โทร 085 -159- 1840,054-449-1499
·
*ดูดวงฟรี ของเดือน มิ.ย นี้ เข้าไปดูได้คับ ตามลิงค์http://teeyai6646.blogspot.com/2011/06/blog-post_09.html
เคล็ดคริสตั้น http://teeyai6646.blogspot.com/2011/06/1.html
**สนใจดูดวง(ฟรี) 085 159 1840 และขอเชิญทุกท่าน ร่วมเป็น แฟนเพจในwww.facebook.com/pages/...เปิดกรรมพลิกดวง/218116541534821?...
(มีกิจกรรมมากมายและความรู้ดีๆกิจกรรม ทายดวงสุนกๆแต่แม่นยำแน่นอน )
***เว็บส่วนตัว สำหรับคนที่อยากสักยันต์,ลงนะเมตตา www.pu108.com
****แต่คนที่อยากมีโชคและสงสัยว่าทำไมเราเกิดมาไม่เคยถูกหวยเลยต้องทำอย่างไร โทร.1900-888-448(แม่นแน่นอน)
*****ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้เรื่อง
1.อยากรู้ว่าทำไมเราไม่มีคู่ติดกรรมอะไร ต้องแก้อย่างไร
2.คนที่คุยอยู่ใช่คู่หรือไม่(ไม่เกิน6เดือน) มีกรรมอะไรกันมา ต้องทำอย่างไร
3.คนที่คุยอยู่ใช่คู่หรือไม่(คบๆนานเริ่มเบื่อๆกันไม่หวานแล้ว) มีกรรมอะไรกันมา ต้องทำอย่างไร
4.คนที่เลิกไปเค้าจะกลับมาหรือไม่ มีกรรมอะไรกันมา ต้องทำอย่างไร(ทั้งหมดนี้1900-888-448 ผม มีคำตอบให้คุณ)
*****สมัครรับ SMS เปิดกรรมพลิกดวงกับ อ.เอก ธนกร ได้ง่ายๆ เพียงเข้าเมนูเขียนข้อความ แล้วพิมพ์เลือกวันเกิด U1อท U2จ U3อ U4พU5พฤ U6ศ U7ส แล้วส่งมาที่ 4847833
******รับSMSเลขมงคลทำลายดวงเจ้ามือ พิมพ์ UL ส่งมาที่ 4847888
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น