วิชาปูนคาดคอ
สวัสดีครับลูกศิษย์ทุกคน วันนี้อาจารย์ เอก ธนกร เปิดกรรมพลิกดวง (สำนักสักยันต์ตำหนักปู่ฤาษี108) จะเล่าเรื่อง "วิชาปูนคาดคอ" โบราณท่านว่าเป็นวิชาแต่งคนคุ้มพล(เป็นวิชาที่แม่ทัพสมัยโบราณ์ใช้เสกปูนแล้วแบ่งให้ทหารใต้การบังคับบัญชาไ
ปออกรบ เพื่อคุ้มครองชีวิตให้อยู่ยงคงกระพันธ์) วิชานี้ท่านว่า เสกปูน 1 ครั้ง คุ้มครองไป7คน วิชานี้ผม อ.เอก และอ.อิท เรียนมาจากหลวงพ่อจอมเทพปราณี แห่งวัดนินสุขาราม
>>>สอนวิชาคงกระพัน<<<
คาถาปูนคาดคอสุดยอดคงกระพัน
"อุนุยัง อุนุยัง อุนุยัง อุนุยัง"
เป็นคาถาปูนคาดคอที่มีคติความเชื่อว่าผู้ที่คาดปูนนี้จะอยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียวทนต่อ "คมหอกคมดาบ" และยังสามารถนำไปถ่ายทอดต่อได้อีก ๗ คน ซึ่งจะทำให้มีความอยู่ยงคงกระพันเฉกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้มีคติความเชื่อด้วยว่า "หากจะคุ้มครองทุกขณะ จะต้องเสกปูนคาดคอ ทุกค่ำเช้า วันละสองครั้ง และจะต้องทำจนกว่า จะครบ ๕ ปี ถึงจะไม่ต้องเสกปูนคาดคอแล้ว จะคงกระพันอยู่ตัว"
>>>ขั้นตอนการทำวิชนี้ให้ขลัง<<<
๑. เตรียมดอกไม้ธูปเทียนใส่พาน ดอกไม้กล้วยไม้สีม่วง1กำ สีขาว1กำ ธูป ๓ ดอก เทียนจำนวน ๒ เล่ม หาปูนที่กินกับหมากไว้เล็กน้อย (ใช้ปูนที่ไม่ใส่สีเสียด) เอาเงินบูชาครูใส่ในพานดอกไม้ธูปเทียน ๖ บาท เมื่อเสร็จพิธีแล้วเอาเงิน ๖ บาทนี้ไปทำบุญทำทาน
๒. จุดธูปเทียนบูชาพระ โดยจุดธูปเทียนแล้ว กราบพระ ๕ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ตั้งใจเคารพพระพุทธเจ้า แล้วจึงกราบ ครั้งที่ ๒ ตั้งใจเคารพพระธรรม ครั้งที่ ๓ ตั้งใจเคารพพระสงฆ์ ครั้งที่ ๔ ตั้งใจเคารพบิดามารดาของตนและกราบลงไป แล้วตั้งใจเคารพครูอาจารย์ กราบลงครั้งที่ ๕ หลวงปู่จันทร์และหลวงพ่อจอมเทพปราณี
๓. เอาปลายนิ้วชี้ไปแตะปูนให้ปูนติดอยู่ปลายนิ้ว แล้วนั่งพนมมือในท่านั่งพับเพียบหรือท่านั่งขัดสมาธิก็ได้ ยกมือที่พนมมาไว้ใกล้ปากให้ปลายนิ้วชี้ที่มีปูนติดมาอยู่ห่างปากประมาณ ๑ คืบ ทดลองเป่าลมออกจากปากเบาๆ ยาวๆ ไปที่ปูน ถ้าลมที่เป่านั้นไม่ตรงปูน ที่ปลายนิ้วชี้ ก็เลื่อนมือให้ลมที่เป่านั้นตรงไปที่ปูนพอดีต่อไปให้หลับตา นั่งนิ่งไม่ขยับมือไม่ขยับหน้าไม่ลืมตา ตั้งใจว่าในใจ ดังต่อไปนี้
ข้าพเจ้าขออัญเชิญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา ครูอาจารย์ ขอให้มาช่วยเสกปูนนี้ ให้เป็นปูนคงกระพันด้วยเถิด”
“นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุธธัสสะ”
๔. สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วอัดลมไว้ ไม่หายใจเข้าไม่หายใจออกจิตนึกถึงภาพปูนที่นิ้วชี้ตลอดเวลาภาวนาคาถา "อุนุยัง" ตลอดเวลา เมื่อภาวนาไปจนถึงปลายลม คือ ประมาณ 3 นาที แล้วให้เป่าลมออกทางปากเบาๆ ยาวๆ เป่าไปที่ปูน การภาวนาให้มีความสม่ำเสมอไม่ใช่เร็วบ้างช้าบ้าง ขณะเป่าก็ภาวนาคาถาและนึกถึงภาพปูนอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเป่าไปที่ปูนได้ประมาณ 3นาทีแล้ว ให้เอาปลายนิ้วชี้ที่มีปูนติดอยู่แตะปลายลิ้น ชิมดูว่าปูนนั้นรสชาติเป็นอย่างไร รู้สึกจืด รู้สึกเค็ม รู้สึกหวาน หรือรู้สึกขม รู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ก็แสดงว่าอำนาจจิตได้ส่งไปที่ปูนมากพอแล้ว จึงทำให้รสของปูนเปลี่ยนไปได้ ถ้าเป็นปูนธรรมดาไม่ได้เสก เอามาแตะที่ลิ้นจะกัดลิ้นมีอาการแสบและรู้สึกเหมือนของมีคมกรีด ปูนที่เสกได้ดีแล้ว เวลาแตะลิ้นรสจะเปลี่ยนไปแปลกๆ หรือรู้สึกเฉยๆ รู้สึกเย็นๆ บางทีก็มีแสบบ้างเล็กน้อยก็ใช้ได้ ปูนยังกัดลิ้นรู้สึกแสบมากต้องเสกใหม่ ทำซํ้าอย่างที่เคยทำจนใช้การได้ไม่กัดลิ้น
ต่อไปหายใจเข้าอัดลมไว้เอานิ้วชี้ที่มีปูนติดแตะไว้ ข้างคอ ภาวนาคาถา ๑ จบว่า “อุนุยัง” พร้อมกับลากนิ้วชี้ข้ามคอมาอีกด้านหนึ่งเรียกว่าเอาปูนคาดคอ ลากนิ้วมายาวประมาณ ๑ นิ้วหรือ ๒ นิ้ว ก็ได้ให้ข้ามกึ่งกลางคอมาอีกทางหนึ่ง ทำดังนี้แล้วก็เป็นอันว่าทำให้คงกระพัน เสร็จแล้ว จะทดลองฟันหรือแทงดูก็ได้ แต่เนื่องจากวิชาคงกระพันทำให้หนังเหนียวป้องกันการเจ็บการชํ้ายังไม่ได้ ต้องเป็นวิชาชาตรีจึงไม่เจ็บไม่ช้ำเมื่อสมาธิดีคือถึงขั้นกลาง จึงเรียนวิชาชาตรีได้ ดังนั้นเวลาทดลองให้ดึงหนังที่แขนซ้ายระหว่างข้อศอกถึงข้อมือออกมาให้หนังที่แขนยืดออก มาแล้วเอามีดปลายแหลมกดลงที่หนังเตรียมทดลอง แทง คือ ให้ปลายมีดแตะหนังไว้ เตรียมกดด้ามมีดลงแรงๆ
ก่อนจะกดปลายมีดลง ให้สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด อัดลมหายใจไว้ ภาวนาคาถาบทที่ ๑ ซึ่งมีสามคำ ภาวนาได้ประมาณ ๗ จบ ก็เริ่มกดมีดลงไปได้ ขณะที่เริ่มกดมีดลงไปก็ภาวนาคาถาไว้เรื่อยๆ ภาวนา ให้ถี่คือเร็วขึ้นจะช่วยให้เจ็บน้อยภาวนาไปได้อีกประมาณ ๙ จบ ก็ให้เลิกกดมีดลงไปให้ยกมีดขึ้นการดึงหนังที่แขน จะให้ผู้อื่นช่วยดึงให้ก็ได้
นี้คือวิชาปูนคาดคอที่แม่ทัพนายกองสมาัยก่อนและนักเลงนิยมใช้กันมากเพราะเชื่อว่าอยู่ยงคงกระพันธ์ดี หวังว่าลูกศิษย์ทุกคนจะได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดคือต้องเป็นคนดี เพราะของดีจะอยู่กับคนดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น