ยันต์ยามอุบากอง ยันต์นี้มีความหมายซ่อนอยู่ในเชิงโหราศาสตร์ นิยมสักไว้ที่หน้าขาหรือท้องแขนเพื่อใช้ดูฤกษ์ยาม และต้องสักกลับหัวกลับหาง เพื่อให้เจ้าตัวคนผู้สักอ่าน ไม่ใช่สักบนตัวเราแต่ให้คนอื่นดู
โดยปกติแล้วรูปของผังยามอุบากองไม่ได้มีอนุภาพอะไร เป็นเพียงดังรหัสลับเพื่อใช้นับฤกษ์ แต่ครูอาจารย์ท่าน ก็มีการเสกเป่าคาถาแคล้วคลาด เมตตา คงกระพันชาตรี ลงไปกำกับจึงทำให้มีอานุภาพคุ้มครอง หรือบางสายกาจิ นำอักขระมาล้อมกรอบยามอุบากองด้วยพระคาถาต่างๆเช่น อิติปิโส 8 ทิศ บ้าง บารมีพระพุทธเจ้าบ้าง หรือคาถาหัวใจ108บ้าง จึงเรียกว่า "ยันต์อุบากอง"
ถือว่าเป็นยันต์ที่เน้นใช้ไม่เน้นโชว์ เพราะผู้ที่สักจะต้องเรียนรู้ท่องจำวิธีใช้ วิธีดูฤกษ์ยาม และคาถาอาคม
คำกลอน ท่องจำ
ศูนย์หนึ่งอย่าพึ่งจรแม้ราญรอนจะอัปรา
สองศูนย์เร่งยาตราจะมีลาภสวัสดี
ปลอดศูนย์พูลสวัสดิ์ภัยพิบัติลาภบ่มี
กากบาทตัวอัปรีย์แม้จรลีจะอัปรา
สี่ศูนย์จะพูนผลแม้จรดลดีหนักหนา
มีลาภล้นคณนาเร่งยาตราจะมีชัย
หารใช้งาน การเดินยาม ใช้ตารางดังรูปยันต์ยามอุบากอง ซึ่งเป็นแบบตารางที่นิยมใช้ อาจเพราะมีเผยแพร่มากที่สุด จะมีรูปแบบ คือมีวันทั้ง 7 คือ จันทร์ - อาทิตย์ และช่วงเวลาแบ่งเป็นกลางวัน 5 ยาม กลางคืน 5 ยาม
กลางวัน เช้า 06.01น. ถึง 08.24น.
กลางวัน สาย 08.25น. ถึง 10.48น.
กลางวัน เที่ยง 10.49น. ถึง 13.12น.
กลางวัน บ่าย 13.13น. ถึง 15.36น.
กลางวัน เย็น 15.37น. ถึง 18.00น.
กลางคืน ยามที่ 1 18.01น. ถึง 20.24น.
กลางคืน ยามที่ 2 20.25น. ถึง 22.48น.
กลางคืน ยามที่ 3 22.49น.ถึง 01.12น.
กลางคืน ยามที่ 4 01.13น. ถีง 03.36น.
กลางคืน ยามที่ 5 03.37น. ถึง 06.00น.
ยันต์ยามอุบากอง ครูอาจารย์ท่านนิยมเอามาใช้กับเรื่องของ"การเดินทาง" ไม่นิยมนำมาใช้ดูฤกษ์งานมงคลแต่งงานและอื่นๆ เพราะถือว่าเป็น "ฤกษ์ยามหนีแหกคุก" แต่จริงๆมันคือ ฤกษ์ของการเลือกเวลาเดินทางออกจากบ้าน เพื่อความปลอดภัยและเกิดสิ่งดีๆ
แต่การดำเนินชีวิตในโลกความจริง จะยึดเอาแต่ฤกษ์ยามคาถาอาคมเป็นหลักก็ไม่ได้ ต้องเอาความจริงทางโลกเข้าประกอบกันจึงดี เปรียบเทียบดังเรา สักสาริกาลิ้นทอง ครูอาจารย์ท่านจึงสอนว่า สักแล้วห้ามด่า ให้พูดจาไพเราะ สาริกาจะขลัง อันนี้เข้าใจไหมครับ ไม่ใช่สักสาริกามาด่าลูกค้าฉอดๆ แบบนี้สาริการเอาไม่อยู่ลูกค้าหนีหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น